Hola! @SPAIN ตอนที่ 5 Madrid เมืองแห่งมนต์ขลัง

Wednesday, January 19, 2011

Hola! @SPAIN  มาพบกับทุกท่านเป็นตอนที่ 5 แล้วนะคะ  สำหรับตอนนี้มีชื่อว่า Madrid เมืองแห่งมนต์ขลัง คราวนี้จะพาทุกท่านไปเดินต๊อกๆ กันที่เมือง Madrid ใจกลาง peninsula แห่ง Spain กันนะคะ ออกเดินทางจากเมืองไทยไปยัง Madrid ก็ใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง.......จ๊ากกกก!!!!!!



 Hasta man~ana ( อัสตะ มัน ญ้าหนะ ) >>>>> แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ


ลังจากที่เราเคี้ยวหมากแหลกไป 90,000 กว่าคำเท่านั้นเองใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง เราก็ถูไถกันจนถึงสนามบินกรุง Madrid โอ้โฮ... สวยมากค่ะโดยเฉพาะ Terminal3 ที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน


Madrid เป็นเมืองหลวงของสเปน พลเมืองหนาแน่นมาก ทั้งคนสแปนิชเองและนักท่องเที่ยว ที่มาเยี่ยมเยือนบ้านเมืองที่นี่ ล้วนสวยงามทั่วทั้งฝั่งซ้ายขวา บาร์ คาเฟ่ รวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งแต่ถ้าหากอยากช็อปปิ้งในย่านวัยรุ่นคล้ายๆ กับสยามสแควร์ ต้องไปเดินถนน Fuencarral มีสารพัดแบรนด์ในร้านเดียวกันคล้ายๆ ร้านน้องโบว์สยามฯ ไปช่วง Sale จะช็อปสนุกที่สุดนะคะ.....


สัญลักษณ์ของเมือง Madrid คือรูปปั้นเจ้าหมีปีนต้นแอปเปิ้  Plaza Mayor กัน ตัวอาคารของ Plaza Mayor จะเป็นส่วนเดียวกับตึกอื่นๆ ซึ่งตึกบริเวณนี้จะเป็นอาคารล้อมรอบลานจตุรัสค่ะ ตรงกลางลาน ก็เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้า Phillip III ทรงม้าอย่างที่เห็นในรูปด้านบนเลยค่ะ


ส่วนตึกรอบๆ ก็จะเป็น Youth Hostel โรงแรม แล้วก็มีพวกร้านอาหารเต็มไปหมด มีร้านค้าเล็กๆ  ส่วนในช่วงกลางวันก็จะมีพวกศิลปินทั้งหลายมาเล่นโชว์กัน นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นที่ใช้จัดงานเทศกาลด้วย สิ่งที่น่าชมอีกอย่างก็คือภาพเขียนบนตึก Plaza Mayor ที่เรียกว่า“Casa Panaderia(ภาพซ้ายบนสุด)


ที่แรกที่ต้องแวะไปชมคือ The Royal Palace หรือ Palacio Real เราจะสามารถเข้าชมห้องต่างๆ ของพระราชวังแห่งนี้ได้ประมาณ 50 ห้องจากทั้งหมด 2,800 ห้อง ด้านใต้ของพระราชวังก็เป็นที่ตั้งของ Cathedral เริ่มสร้างในปี 1883  แต่ก็ไม่แล้วเสร็จซักที จนกระทั่งเมื่อปี 1999 ถึงได้แล้วเสร็จ……


Cathedral คือโบสถ์นั่นเอง เอาเป็นว่าถ้าไปยุโรปแล้วไม่ได้แวะไปชมโบสถ์ประจำเมืองต่างๆ ถือว่าคุณยังไปไม่ถึงยุโรปเลยที่เดียวค่ะ.....


สำหรับคอบอล ห้ามพลาดการเข้าชมสนาม Santiago Bernabeu สนามฟุตบอลของ สโมสร Real Madrid ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ของสโมสร เสียค่าเข้า 9 ยูโร แต่ได้เข้าไปชมห้องแต่งตัวและได้นั่งบนม้านั่งของนักเตะด้วย คุ้มไหมหล่ะคะ...ถ้าอยากดูการแข่งขันสามารถซื้อได้หน้าซุ้มเลย ยกเว้นนัดสำคัญต้องสั่งจองบัตรล่วงหน้า ซุ้มขายตั๋วจะเปิดเช้าๆ ช่วง 10 โมงเป็นต้นไป.......



ตอนหน้าจะพาทุกท่านไปเที่ยวยังสถานที่อื่นๆ ในเมือง Madrid กันต่อนะคะ....

แล้วมาพบกันตอนหน้า  บ๊าย  บาย

“ Hola! ” @SPAIN ตอนที่ 4 พาไปกินTapas ที่ St.Sébastien

Wednesday, January 12, 2011

“ Hola! ” @SPAIN มาพบกันเป็นตอนที่ 4 แล้วนะคะ สำหรับตอนนี้มีชื่อว่า พาไปกิน Tapas  ที่ St.Sébastien” วันนี้จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวยัง St.Sébastien ซึ่งอยู่ในเมือง Biarritz ที่นี่ทะเลสีฟ้าครามสดใส  คงถูกใจใครๆ หลายคนที่ติดตามอ่าน “ Hola! ”  @SPAIN  ถ้าพร้อมแล้วก้อไปกันเลยยย
  
Como Esta Used  โค้โม่ เอสต้า อูเต็ด >>>>>>> สบายดีใหมคะ  

อ้ทะเลแสนงาม......  ฟ้าสีครามสดใส........ มองเห็นเรือใบ...... แล่นอยู่ในทะเล......... อืมมมมม...........
เมื่อได้มีโอกาสสัมผัสทะเลเมื่อใด เป็นต้องร้องเพลงนี้ทุ๊ก..ที ให้ตายสิ เพลงอื่นทำไมถึงคิดไม่ออกก็ไม่รู้จะร้องเพลงเกาะสมุย ก็ไม่ใช่ที่ซะด้วย เอาเป็นว่า...ไม่ว่าทะเลที่ใหนๆ มันก็มีสีฟ้าสดใสให้เข้าได้กับเพลงนี้ตลอด.........แล้วกัน....


วันนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยว St.Sébastien ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Biarritz เขต Pays Basque เมืองถือว่าเป็นเมืองตากอากาศอันดับต้นๆ ของสเปนก็ว่าได้ เนื่องจากมีชายทะเลทอดตัวยาว ราวๆว่า ชายทะเลบางแสนอะไรทำนองนั้นเลย


สำหรับจุดเด่นของเมืองนี้นอกจากชายหาดอันสุดลูกหูลูกตาแล้ว ก็จะเป็นสวนสาธารณะที่มีอยู่ทั่วทั้งเมือง เรียกได้ว่าเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างปั๊บ ก็จะพบกับต้นไม้นานาพันธุ์ปุ๊บ และที่สำคัญทุ่งดอกทิวลิปที่มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น.......


วกตึกอาคารที่นี่สีสันสวยงามดูแปลกตา บางตึกก็เป็นสีๆแบบที่เห็น คือ สีแซลม่อน ตรงประมาณชั้นที่สามเขาจะมีการประดับผนังด้วยกระเบื้องโมเสส (Mosaïque) หลากสี


ต้นไม้โกร๋นๆในปาร์คมีเต็มไปหมด เนื่องจากเป็นฤดูหนาวถ้ามีใบก็คงจะดูร่มรื่นดี ...สงสัยต้องกลับมาดูออกใบช่วงหน้าร้อน

 
ข้ามถนนมาอีกนิด ก็มาเจอ จตุรัส เป็นลานกว้างเอามากๆ ตึกทั้งสี่ทิศตั้งเป็นสง่า ทรงเดียว สีเดียวกันหมด แถมมีหมายเลขติดไว้อย่างเด่นชัด ...แหม..คงกลัวเจ้าของจะหลงเข้าบ้านผิดหรือไงไม่รู้แฮ่ะ ดูแปลกตาดี นั่งไล่ดูมีถึง 127 ห้อง ส่วนข้างล่างก็จะเป็น บาร์และร้านอาหารเกือบทั้งหมด
หิวกันหรือยังคะ ....มาเที่ยวที่นี่ทั้งที ถ้าไม่ได้กิน ตาปาส Tapas ถือว่ามาไม่ถึง เพราะเมืองนี้เขาขึ้นชื่อมากๆ ไม่อยากจะบอกว่าเหมือนไปเมืองเพชร แล้วไม่ได้กินขนมหม้อแกงยังไงยังงั้นเลยล่ะค่ะ ดังนั้นก็เลยมีบาร์ตาปาสเปิดกันเต็มทุกตรอกซอกซอย แต่ละร้านคนก็เต็มๆ บางร้านคนก็ยืนดื่ม และกินตาปาสกันหน้าร้านเลยทีเดียว…..


ที่นี่จะทำตาปาสเสียบเป็นไม้ๆมีหลากหลายให้เลือก อยากกินอันไหนก็หยิบๆเอาแล้วจ่ายตังค์ ราคาค่อนข้างแพง ทุกอย่างอันละหนึ่งยูโร กินไปสิบอันยังจะไม่ค่อยอิ่มเลย เพราะไม้เล็กมาก ส่วนใหญ่ที่เขาจะยืนออกันข้างหน้าเคาน์เตอร์ก็เพราะกินเจ้าตาปาสกันนี่แหละค่ะ กินกันจนเสร็จแล้วถึงจะออกจากร้านไปกัน............ 



ป็นยังไงบ้าง น่ากินใหมล่ะคะ สีแดงๆ คือพริกหยวกผัดน้ำมันโอลีฟ อันที่มีสลัดซอยและหัวหอมโรยหน้าสีเขียวๆ ก็อร่อยเหมือนเบคอนชุปไข่ทอด ....อธิบายไม่ถูกรสชาติอร่อยมากๆ เนื่องจากรสค่อนข้างจัดถูกปากคนไทย แต่ละร้านเขาจะแขวนเบคอนแห้งๆ (Jambon sec) เป็นขาใหญ่ๆ ตามภาพ ที่ขึ้นชื่อของสเปนคือ Jambon Serrano


ซอยแต่ละซอยจะเดินทะลุหากันได้นะคะ แต่ที่เห็นในซอยทั้งหมดนี้จะเป็นดงบาร์ตาปาสทั้งนั้น....!!!!!

 
ไม่ไหวล่ะค่ะหิวมากมาย เชื่อว่าท่านผู้ชมก็คงจะหิวแบบเรานั่นแหละ ว่าไม๊ล่ะ สำหรับตอนนี้ขอหยุดไว้แค่นี้ก่อนล่ะกัน เพราะคงต้องไปหาข้าวเย็นทานก่อน...... ตาปาสไม่มี งั้นมื้อนี้คงต้องขอลาบปลาดุกแล้วกัน อิอิ ไม่แน่นะรสชาด คงแซบถึงใจไม่แพ้ตาปาสเลยแหละ อิอิ

" Hola! " @SPAIN ตอนที่ 3 เมืองแห่งสถาปัตยกรรมมุสลิมอันยิ่งใหญ่

Sunday, January 9, 2011


"Hola!" @SPAIN มาพบกับทุกท่านเป็นตอนที่ 3 แล้ว สำหรับตอนนี้มีชื่อว่า เมืองแห่งสถาปัตยกรรมมุสลิมอันยิ่งใหญ่ จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวยังเมือง Cordoba และ เมือง Sevilla ลองติดตามอ่านกันดูนะคะ...... 


  
Cordoba......เมืองใน Andalucia ที่น่าสนใจ ในอดีตสมัยอาณาจักร Al Andalus รุ่งเรืองประมาณช่วงคริสศตวรรษที่ 7 เมืองนี้เป็นเมืองหลวงที่วิจิตรงดงามที่สุดในยุโรป หากใครชอบศิลปะมุสลิม และย่านเมืองเก่าเล็ก ๆ ที่มีบ้านสีขาว  ที่ระเบียงประดับดอกไม้ จะต้องหลงรักเมืองนี้.....


La Mesquita มหาวิหารประจำเมือง ซึ่งในอดีตเคยเป็นสุเหร่ามาก่อน ค่าเข้าชมแพงมาก 7.5 ยูโร แต่คุ้มทีสุด แนะนำว่าควรเข้าไปชมไม่ต้องเสียดายเงิน เมื่อเข้าไปข้างในแล้วให้ตรงไปที่แท่นบูชาของมุสลิมที่เรียกว่า Miharb ที่นี่คุณจะพบกับศิลปะมุลสิมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก......



ย่านเมืองเก่าที่นี่ น่ารักมาก บ้านสีขาวในตรอกเล็กๆ ได้บรรยากาศอันดาลุซอย่างแท้จริง....ที่นี่มีสวนน้ำพุสวยชื่อ Alcazar de los Cristianos ไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน...... เมืองนี้เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ AVE รถไฟด่วน (แนะนำว่าถ้าใครไปเที่ยว Sevilla  โดยรถไฟด่วน ควรแวะเที่ยวเมืองนี้สัก 2 ชม. ก่อน) 


Sevilla....เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย มีอะไรให้ดูมากมายเพราะที่นี่คือ "สเปนแท้ๆ" ..... มหาวิหารของเมือง Sevilla  ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโบสถ์ที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก หอระฆังของที่นี่สร้างโดยมุสลิม ภายในสวยมากๆและเป็นที่บรรจุหลุมศพของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสด้วย


Real Alcazar ของที่นี่ก็สวย สร้างโดยกษัตริย์คริสเตียน แต่ศิลปะเป็นแบบมุสลิมหรือที่เรียกว่า Mudejar




 Plaza de Espana ของเมืองนี้สวยที่สุดในสเปน สร้างได้แบบ " โคตรสเปน " เป็นยังไงมาดูเอาเอง.....
 

Plaza de Toros ที่เมืองนี้เก่าแก่เกือบที่สุดในสเปน นักสู้วัวดังๆมักมาสู้วัวที่นี่ เรียกได้ว่า นักสู้วัวกระทิงเกือบทุกคน ต้องเคยผ่านสังเวียนที่นี่มาแล้ว......


ถ้ามีเวลาควรล่องแม่น้ำ Guadaquivir ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดในอดีต เพราะเมืองนี้ผูกขาดทางการค้ากับทวีปอเมริกา เรียกได้ว่าเรือจากทวีปอเมริกาต้องผ่านมาทางเมืองนี้


แล้วมาพบกันตอนต่อไปนะคะ

“ Hola! ” @SPAIN ตอนที่ 2 สเปนดินแดนสองอารยะธรรม

Thursday, January 6, 2011




ฮิฮอน เป็นเมืองตากอากาศที่น่ารักมาก ๆ ของสเปน  อยู่ทางตอนเหนือของสเปนติดกับอ่าวบิสเคย์สามารถบินจาก
บาร์เซโลน่าไปที่สนามบินเมืองโอวิโด แล้วนั่งรถบัสต่อไปฮิฮอน  ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเอง เมืองนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนที่เป็นเมืองเก่า ซึ่งอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี 
อีกส่วนเป็นชายหาดซึ่งพัฒนาไว้สำหรับการท่องเที่ยว ชายหาด San Lorenzo เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ
สเปน ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางลงสู่ชายหาดถึง 15 จุด


เมืองที่เราจะมาเที่ยวกันอีกแห่งหนึ่งคือ โทเลโด ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกเหมือนดังเช่น หลวงพระบางยังไงยังงั้นเลย
ที่เดียว!! เราสามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ โดยนั่งรถไฟด่วนที่สถานีอาโทชาในแมดริดไปโทเลโด ใช้เวลาไม่นานก็จะ
ถึงตัวเมือง จากนั้นต่อรถบัสเข้าไปในเขตเมืองเก่า  
เมื่อเขียนเรื่อง โทเลโด ทำให้ผมนึกถึงนิยายของคุณนิตยา นาฏยะสุนทร เรื่อง "กระท่อมของแอนน์" เพราะว่าเขาดำเนิน
เนื้อเรื่องในสเปน และมีฉากของโทเลโดอยู่ด้วย เป็นบทประพันธ์ที่สวยงามทั้งด้านเนื้อหาและการบรรยาย อ่านแล้ว..คิดว่า
สักวันคงต้องได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง......สักที

 
"ระท่อมของแอนน์"....นวนิยายเรื่องยาวที่ใช้ประเทศสเปนบอกเล่าเรื่อง ฉากของความเป็นยุโรปของเมืองโทเลโด
เมืองมรดกโลกที่น่าตราตรึงและประทับใจไม่รู้ลืม....      

   

“ Hola! ” @SPAIN ทำไมต้องไปสเปน? ตอนปฐมฤกษ์

Monday, January 3, 2011




สเปน (Spain) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ราชอาณาจักรสเปน (Kingdom of Spain) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียร่วมกับโปรตุเกสและอันดอร์รา และมีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวเทือกเขาพิเรนีส สเปนเป็นประเทศหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลงใหลในความงดงาม  ด้วยเพราะสภาพภูมิประเทศที่ และอารยธรรมอันน่าหลงใหล…….


เมืองหลวงของสเปนได้แก่ กรุงมาดริด (Madrid) ซึ่งติดอันดับเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังเป็นสถานที่ตั้งของสโมสรดัง เรอัล มาดริด แต่ที่เด็ดสุดคือติดอันดับเป็นเมืองหลวงที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป !!! Wow


เอ......แล้วเราจะเริ่มไปเที่ยวที่ใหน?!?......กันก่อนดีล่ะ!!
 
ด้วยความที่เราเป็นพี่ไทย...ขาช๊อปก็ต้องที่นี่เล้ยยย  ปูเอตา เดล ซอล (Puerta del Sol) ที่นี่เป็นกิโลเมตรเริ่มต้นของสเปน การจราจรค่อนที่คับคั่งกับร้านค้าแบรนด์เนมทันสมัยในตัวตึกเก่าแก่ ดูขัดแย้งแปลกตา และที่สำคัญเราพบว่าตลอดถนนสายแคบๆ ที่เชื่อมระหว่างปูเอตา เดล ซอล กับปลาซ่า มายอร์ นั้น มีร้านค้าที่เก๋ไก๋สไลด์เดอร์กว่าฝั่งห้าง เอล กอร์เต้ อิงเกลซ (ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางของเมือง) สถานที่เก่าแก่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีทั้งตลาดการค้า สนามสู้วัวกระทิง หรือแหล่งรวมชนในงานฉลองพิธีต่างๆ เสียอีก    .....พวกเราขาช๊อป จัดไป!!

สิ่งที่สังเกตเห็นทั่วไปในกรุงมาดริดคือ ป้ายมูเซโอ ( พิพิธภัณฑ์ ) ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจในการให้ความรู้และการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมแก่ผู้คนของเขา แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าในกรุงมาดริดเราจะหาชมผลงานอันทรงคุณค่าได้เฉพาะในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น จึงขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมเมืองเก่าแก่นอกกรุงมาดริด เช่น มหาวิหารแห่ง โทเลโด้ ( Catedral Primada de Toledo) ซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 มีความงดงามอลังการสไตล์โกธิค มีภาพเขียนทางศาสนาของ เอล เกรโก, ติเตียน, โกย่า แม้แต่กระทั่ง คาราวัจจิโอ ก็ยังมีแสดงอยู่ภายใน……


โทเลโด้ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และแน่นอนว่าย่อมมีความงดงามทางสถาปัตยกรรมให้ชมด้วย ซึ่งความน่าสนใจของเมืองนี้คือมันถูกยกย่องให้เป็น เมืองมรดกโลกนั่นเอง ซึ่งสถาปัตยกรรมของที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างคริสเตียนและแขกมัวร์ในสไตล์ที่เรียกว่า มูเดฮาร์ (Mudejar) ที่ทำให้เมืองนี้ดูโดดเด่นสง่างามกลางสายน้ำ    ……..แหม! ชักอยากไปเที่ยวแล้วซิ
……………………………………………………………………………………………………………………………………
*****
ว่ากันว่าผู้ชายสเปนติด TOP5 หล่อที่สุดในโลก เลยที่เดียว......

อ้าว......สาวๆ เตรียมตัวแพ๊คกระเป๋ากันได้เลยนะจ๊ะ 555+

……………………………………………………………………………………………………………..
เดี๋ยวตอนหน้ามาว่ากันต่อนะค๊า.....Bye  Bye